ไฟเตือนหน้าปัดคอนโซลหน้ารถยนต์บอกอะไรได้บ้าง? รู้ไว้มีชัยไปกว่าครึ่ง

อยู่มาวันหนึ่งมีเหตุให้ขับรถทางไกล ขับรถออกต่างจังหวัด แต่แล้วก็ต้องตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เพราะจู่ๆ สัญลักษณ์ไฟเตือน บนแผงหน้าปัดรถยนต์ หรือตรงคอนโซลหน้ารถก็ส่งสัญลักษณ์เตือนรถแบบแปลกๆ ในแบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทำให้สมาธิขับรถเตลิดเปิดเปิง คาดเดาอะไรไม่ได้ว่าอีกกี่นาทีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเพื่อให้ทุกคนรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างใจเย็น นี่คือเรื่องราวของ “ไฟเตือนหน้าปัดรถ” ครับ!

ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์มีกี่สี แต่ละสีหมายความว่าอะไรบ้าง
สีทำให้เกิดการจำแนก จดจำได้ง่าย และบ่งบอกนัยยะได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์จึงถูกแบ่งออกเป็นทั้ง 3 สี คือ สีเขียว สีเหลือง และสีแดง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้เร็วขึ้นว่าควรจัดการอะไรก่อนและหลังดี หรือคุมสถานการณ์ตรงหน้าได้ ซึ่งทั้ง 3 สีมีความหมาย คือ
- ไฟเตือนหน้าปัดสีเขียว คือ กำลังใช้งานฟังก์ชั่นนั้นในรถยนต์ เช่น เปิดไฟสูง เปิดไฟตัดหมอก
- ไฟเตือนหน้าปัดสีเหลือง คือ ฟังก์ชั่นนั้นยังใช้งานได้ แต่ตรวจสอบด้วยเพราะมีความบกพร่อง
- ไฟเตือนหน้าปัดสีแดง คือ โปรดตรวจสอบทันที และหยุดใช้งานเพื่อความปลอดภัย
จะเห็นได้ว่า ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์มีความคล้ายกันกับ สัญญาณไฟจราจร คือ สีแดงต้องหยุด สีเหลืองต้องระวัง สีเขียวไปได้เลย นี่คือการส่งสัญญาณเตือนให้คนขับรถรู้ครับ ดังนั้น การรู้ว่าไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์มีสีอะไร และกำลังจะบอกอะไร จะช่วยให้คุณคาดเดาสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น

สัญลักษณ์หน้าปัดรถยนต์ 5 แบบ กำลังจะบอกอะไร?
คอนโซลหน้ารถจะอยู่ข้างหน้าเพื่อให้สังเกตได้ง่ายขึ้น ดังนั้น หมั่นสังเกตบ่อยๆ ว่าไฟเตือนหน้าปัดกำลังบอกอะไรบ้าง เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ไฟหน้าปัดรถยนต์ขึ้นเตือน หมายถึงอันตรายมาก ถ้าจะขับรถต่อไป
นี่เป็นสิ่งที่คนขับรถทุกคนต้องรู้ ไม่ใช่แค่ขับรถออกต่างจังหวัด หรือขับรถทางไกลเท่านั้น แต่ขับรถในเมืองหลวงเองก็ต้องทำความเข้าใจเช่นเดียวกัน หากเพิกเฉยจะส่งผลเสียในทุกๆ ทางเลยนะครับ
ไฟเตือนหน้าปัดรถโชว์รูปแบตเตอรี่
แผงหน้าปัดตรงคอนโซลหน้ารถแสดงสัญลักษณ์แบตเตอรี่ หลายคนคงเข้าใจกันไปแล้วว่าต้องหมายถึงแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม หรือแบตหมดแน่ๆ นั่นก็ถูกครับ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
เพราะอีกความหมายที่ไฟหน้าปัดรถโชว์รูปแบตเตอรี่ คือ รถกำลังมีปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้า หรือการจ่ายไฟเข้าแบตเตอรี่ สาเหตุมาจากสายพานไดร์ชาร์จหย่อน หรือว่าขาด ต้องตรวจสอบระบบไดร์ชาร์จด่วนๆ
หากดันทุรังขับต่อไม่ยอมจอดรถเรียกช่างซ่อมรถ มีโอกาสที่จะรถดับกลางทางได้เลยครับ อย่าลืมว่าทั้งแอร์ หรือวิทยุดึงไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์มาใช้ทั้งสิ้น โอกาสที่รถจะดับก็มีมากขึ้น
ดังนั้น ควรรีบจอดรถให้ไวที่สุดแล้ว โทรเรียกช่างหรืออู่ซ่อมรถเลยครับ! และถ้าเกิดคุณมีประกันรถยนต์ก็จะง่ายขึ้นไปอีกขั้น เพราะว่าสามารถใช้เคลมประกันรถยนต์จากประกันรถ และเลือกศูนย์ซ่อมหรืออู่ซ่อมได้
ไฟเตือนหน้าปัดรถโชว์รูปเครื่องหมายตกใจ (!)
อัศเจรีย์ หรือเครื่องหมายตกใจ มีเอาไว้เพื่อให้คุณสังเกตเห็นได้ชัด หรือสะกิดใจว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ และเมื่อมาอยู่ในไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์แล้วเป็นสีแดง ก็ใช่จริงๆ เพราะกำลังบอกว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับเบรครถ
สาเหตุที่เกิดขึ้นเพราะว่า รถกำลังจะเสียการทรงตัว ระบบเบรคจึงทำงานขึ้นมาเพื่อให้รู้ว่ากำลังควบคุมรถอยู่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ระบบเบรคหายไปแล้วแปลว่าควบคุมการทรงตัวของรถได้แล้วครับ
แต่ถ้าเกิดตรงคอนโซลหน้ารถมีไฟกะพริบแบบไม่หยุด หมายถึงระบบไฟมีปัญหา คุณสามารถขับรถยนต์ต่อได้ แต่ต้องระวังในการขับรถมากขึ้น เพราะว่าระบบการทรงตัวหยุดการทำงาน
ดังนั้น ควรได้รับการตรวจสภาพเครื่องยนต์แบบเร่งด่วน เพราะถ้าใช้งานรถยนต์ต่อไปก็เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุรถชนได้ในสักวัน เช่น ควบคุมการทรงตัวรถยนต์ไม่ได้ แต่ระบบเบรคไม่เตือน อาจขับรถชนคันอื่นได้
ไฟเตือนหน้าปัดรถโชว์รูปกาน้ำ
ขับรถอยู่ดีๆ คอนโซลหน้ารถก็มีไฟเตือนหน้าปัดว่าเป็นรูปกาน้ำ สิ่งแรกที่ประกันติดโล่อยากแนะนำเลยคือ เปิดไฟเลี้ยว หาที่จอดรถ และดับเครื่องยนต์ในทันที เพราะนี่แปลให้เข้าใจง่ายๆ ว่า น้ำมันเครื่องไม่หมุนเวียนแล้ว
ขั้นแรกตรวจดูว่าน้ำมันเครื่องใกล้หมด ควรเติมน้ำมันเครื่องแล้วรอสักพักสัญลักษณ์หน้าปัดรถที่เป็นรูปกาน้ำก็จะหายไป แต่ถ้าไม่ใช่! หมายความว่า น้ำมันเครื่องมีรอยรั่วซึม ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่อ่างน้ำมันเครื่อง
เพราะถ้าที่น้ำมันเครื่องไม่มีน้ำมันเครื่องอยู่แปลว่า “รั่ว” ทางที่ดีควรติดต่อช่างซ่อมรถยนต์เป็นการด่วน แล้วให้ช่างทำการซ่อมแซมรถยนต์ครับ แล้วที่สำคัญต้องไม่สตาร์ทรถ แล้วใช้รถลากลากไปซ่อมอู่หรือศูนย์ซ่อม
ไฟเตือนหน้าปัดรถโชว์รูปเครื่องยนต์
เมื่อไหร่ก็ตามที่หน้าปัดรถยนต์ขึ้นรูปเครื่องยนต์ ให้รู้ไว้เลยครับว่าหายนะครั้งใหญ่มาเยือนแล้ว เพราะไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ มีหลายอาการแฝงอยู่ เช่น สายพานมีปัญหา ค่าออกซิเจนผิดปกติ หรือ ตัว ECU มีปัญหา
โดยปกติแล้วแผงหน้าปัดรถจะโชว์รูปเครื่องยนต์เมื่อตอนสตาร์ทรถ แล้วก็จะหายไป แต่ถ้าค้างไว้ไม่หายไปไหน รถยนต์ยังขับได้เหมือนเดิม แต่จะใช้ความเร็วในรอบสูงๆ ไม่ได้เลย มากสุดก็ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ถ้าขับไปอู่รถยนต์ หรือศูนย์ซ่อมรถยนต์ ทำถูกต้องแล้วครับ เพราะอาการนี้ต้องให้ช่างซ่อมรถยนต์ดูสถานเดียวไม่สามารถแก้ไขปัญหาเองได้ แต่ถ้าดื้อ ขับออกไปเลย มีหวังได้ใช้รถลากลากกลับมาซ่อมแน่ๆ
ไฟเตือนหน้าปัดรถโชว์รูปเทอร์โมมิเตอร์
เทอร์โมมิเตอร์จะเห็นได้ในวิชาวิทยาศาสตร์หมายถึงความร้อน ใช่แล้วครับ ถ้านำมาใช้ในเครื่องยนต์ที่เป็นไฟเตือนหน้าปัดรถ ก็แปลให้เข้าใจตรงกันเลยว่า “เครื่องยนต์กำลังร้อน”
สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อเจอไฟเตือนหน้าปัดสีแดงรูปเทอร์โมมิเตอร์คือ เปิดไฟเลี้ยว และหาที่จอดรถเลยนะครับ แล้วหลังจากนั้นให้เปิดฝากระโปรงขึ้นเพื่อระบายความร้อนออกทันที
เหตุผลที่ความร้อนในระบบเครื่องยนต์พุ่งขึ้นสูง เช่น หมอน้ำรั่ว ปั๊มไม่ทำงาน พัดลมไม่หมุน ถ้าไม่รู้ว่าแผงหน้าปัดรถยนต์ขึ้นรูปเครื่องวัดเทอร์โมมิเตอร์แปลว่าอะไร คงดันทุรังขับรถต่อไปจนรถยนต์จนทำงานหนัก
ท้ายที่สุดรถยนต์ก็จะดับไปเลยเพราะใช้งานจน Over Heat ผลที่ตามมาคือฝาสูบโก่ง บิด เบี้ยว และงอ ส่งผลให้ต้องใช้รถลากมาลากไปซ่อมที่อู่โดยปริยาย และจ่ายค่าซ่อมรถมากกว่าเดิม!
หากคุณมี ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันชั้น 2+ สามารถขอเคลมค่าใช้จ่ายในส่วนค่ารถลากได้นะครับ เป็นจำนวนเท่าไหร่นั้นอยู่ที่เงื่อนไขที่ระบุเอาไว้ในกรมธรรม์
สรุป
และนี่คือ 5 สัญลักษณ์ไฟเตือน บนแผงหน้าปัดรถยนต์ ที่คุณต้องรู้ว่ากำลังบอกอะไร หากเพิกเฉยการแจ้งเตือนจากแผงหน้าปัดตรงคอนโซลหน้ารถ อาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ เช่น ดันทุรังขับไปเรื่อยๆ อาจจะเหยียบเบรคไม่อยู่แล้วเกิดอุบัติเหตุเข้าจนได้เหมือนกัน ดังนั้น รู้เอาไว้ ไหวตัวทัน เป็นเรื่องดีที่สุดครับ!